สภาวะตลาดของโรงพยาบาลเอกชน
ในปี 2556
ที่ผ่านมา ผลประกอบการของโรงพยาบาลเอกชน
(ตัวเลขจากกรมธุรกิจการค้า กระทรวงพานิชย์) รายได้รวมอยู่ที่ 36,069
ล้านบาท เทียบกับปีที่แล้ว 108,134 ล้านบาท ลดลงกว่า 67%
ทำให้กำไรสุทธิลดลงเกือบจะ 100%
ปัญหาทางด้านการเมือง ยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่จะต้องเฝ้าระวัง
เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน ขนาดใหญ่เป็นอย่างมาก เนื่องจากปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองย่อมมีผลเสียต่อภาพลักษณ์ของไทย
ทำให้คนไข้ชาวต่างชาติขาดความเชื่อมั่นทางด้านความปลอดภัย
และอาจชะลอหรือเลื่อนการเดินทางมาไทย
หรือไม่ก็อาจตัดสินใจเดินทางไปรักษาพยาบาลยังประเทศคู่แข่งก็เป็นไปได้ โดยเฉพาะคนไข้รายใหม่ๆ
ที่จะตัดสินใจเลือกประเทศที่จะมารักษา ก็ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้น ปานกลางและยาว
เพราะคนไข้บางคนต้องรักษาพยาบาลแบบต่อเนื่อง
ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทาการแพทย์ จากจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ที่มีค่อนข้างจำกัดไม่เพียงพอต่อความต้องการของโรงพยาบาลภาคเอกชน
ส่งผลให้โรงพยาบาลเอกชนมีการดึงบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลรัฐบาล
รวมทั้งดึงจากโรงพยาบาลเอกชนด้วยกันเอง
โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ซึ่งปัญหาดังกล่าว
เป็นปัญหาเดียวกับประเทศที่ต้องการพัฒนาเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ เช่น อินเดีย
ก็มีปัญหาเช่นเดียวกันกับไทย
อุปสรรคอีกประการหนึ่งของธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนคือการเผชิญการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น
ทั้งในประเทศและการแข่งขันกับคู่แข่งต่างประเทศเช่น สิงคโปร มาเลเซีย และ อินเดีย
โรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงระหว่างโรงพยาบาลเอกชนด้วยกันเอง
รวมทั้งการแข่งขันกับโรงพยาบาลรัฐที่หันมาพัฒนาตัวเองเพื่อแข่งกับโรงพยาบาลเอกชนมากขึ้น
เช่น การให้บริการคลินิกพิเศษในช่วงหลังเวลาทำการปกติ ส่งผลให้ธุรกิจโรงพยาบาลขนาดใหญ่มีการปรับกลยุทธ์ในการแข่งขันเช่น
การลดราคาค่าห้องพัก และการจัดแพ็คเกจรักษาในราคาประหยัด หรือแบบเหมาจ่ายราคาพิเศษ
รวมถึงการสร้างธุรกิจในรูปแบบของเครือข่ายพันธทิตรทางธุรกิจ
โดยผ่านการซื้อหรือควบรวมกิจการ เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงาน ลดค่าใช้จ่ายที่ซ้ำซ้อน
และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การแข่งขันระหว่างประเทศเพื่อดึงคนไข้ชาวต่างชาติ
ซึ่งในปัจจุบันมีหลายประเทศที่มีนโยบายสร้างรายได้
โดยการสนับสนุนธุรกิจบริการรักษาพยาบาลให้กับชาวต่างชาติ โดยเฉพาะโรงพยาบาลเอกชนของประเทศต่างๆในเอเซีย
ไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย และอินเดีย
ซึ่งต่างก็มุ่งไปที่คนไข้ชาวยุโรป และเอเซีย โดยเฉพาะญี่ปุ่น จีน
อาเซียนและตะวันออกกลางเช่นเดียวกับไทย
แม้ไทยจะมีข้อได้เปรียบจากค่ารักษาพยาบาลที่ต่ำกว่าประเทศคู่แข่งอย่างสิงคโปร์
แต่ประเทศไทยยังมีจุดอ่อนอยู่หลายประการ โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์
และทักษะด้านภาษาต่างประเทศที่เป็นข้อจำกัด
ซึ่งจุดอ่อนดังกล่าวถือเป็นจุดเด่นของประเทศคู่แข่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น