28.2.57

ธุรกิจสุขภาพของไทยจะโตต่อไปอย่างไร (ตอนจบ)



แนวทางในการปรับตัวของธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน

การสร้างความแตกต่างให้ธุรกิจ
ไม่ว่าจะเป็นการวางตำแหน่งทางการตลาดของแบรนด์โรงพยาบาลของตัวเองให้ชัด (Positioning) โดดเด่น และเป็นที่รู้จักกันในนามโรงพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น ด้านศัลยกรรมความงาม โรคผิวหนัง โรคหัวใจ เป็นต้น

ใช้กลยุทธ์ เจาะตลาดกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน (Segmentation Marketing)
ด้วยการทำการตลาดเจาะกลุ่มเป้าหมาย โดยเลือกไลฟ์สไตล์ให้สอดคล้องกับลูกค้ามากขึ้น จากปกติที่เน้นเรื่องการชูจุดขายของการให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทาง และในขณะเดียวกันผู้ประกอบการโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ควรหาวิธีควบคุมต้นทุนและลดค่าใช้จ่ายเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน

การตลาด Medical Outsourcing
การส่งต่อบริการทางการแพทย์ที่มีการทำสัญญากับบริษัทประกันในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้วที่ต้องการลดต้นทุนของตัวเอง โดยการส่งผู้ป่วยที่ประกันตนกับบริษัท ไปรักษาพยาบาลยังโรงพยาบาลเอกชนในต่างประเทศที่มีค่ารักษาต่ำกว่า จากผลงานวิจัย คาดว่า แนวโน้มช่องทางการตลาดในลักษณะนี้ มีโอกาสเติบโตได้ดีตามอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลง โครงสร้างของประชากรของแต่ละประเทศไปสู่สังคมสูงอายุมากขึ้น

การขยายตลาดในต่างประเทศให้เพิ่มมากขึ้น
การเปิดสำนักงานตัวแทนของโรงพยาบาลขึ้นในประเทศต่างๆ หรือการออกไปจัดกิจกรรมเผยแพร่ ให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับบริการโรงพยาบาลเอกชนของไทยที่มีศักยภาพในประเทศเป้าหมาย โดยเฉพาะในประเทศแถบตะวันออกกลางที่มีความนิยมการแพทย์ของไทยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และเป็นประเทศที่มีฐานะทางเศรษฐกิจดีมีกำลังซื้อสูง

ใช้จุดแข็งของไทยดึงดูดลูกค้าชาวต่างชาติ
ทั้งในแง่ของค่ารักษาพยาบาล คุณภาพการรักษาและบริการ เนื่องจากลูกค้าต่างชาติถือเป็นแหล่งรายได้ ที่สำคัญและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต

ให้บริการครบวงจร
ผู้ประกอบการโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ควรให้ความสำคัญกับการให้บริการแบบครบวงจร เช่น การจัดหาผลิตภัณฑ์หรือบริการทางการแพทย์ที่มีความหลากหลาย และเน้นความเชี่ยวชาญของแพทย์ ซึ่งยังคงเป็นกลยุทธ์หลักที่แต่ละโรงพยาบาลไม่สามารถมองข้ามได้ ยิ่งมีผู้เชี่ยวชาญมากเท่าไร ก็ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจในการเข้ารับบริการมากขึ้น นอกจากนี้ ควรมีบริการเสริมอื่นๆ เช่น การดูแลด้านความงาม และสปา ที่ควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพ เป็นต้น


กล่าวโดยสรุปแล้ว ผู้ประกอบการธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ที่ต้องการส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้น อย่างมีเสถียรภาพ อาจต้องอาศัยการสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจ และหันมาทำการตลาดเจาะกลุ่ม เป้าหมายโดยเลือกไลฟ์สไตล์สอดคล้องกับลูกค้ามากขึ้น นอกจากนี้ผู้ประกอบการที่มีความพร้อม และมีศักยภาพในการแข่งขัน ก็ควรพิจารณาทำตลาดในเชิงรุกด้วยการขยายตลาดในต่างประเทศให้เพิ่มมากขึ้นไปอีก รวมถึงอาศัย จุดแข็งในแง่ค่ารักษาพยาบาล คุณภาพการรักษาและการบริการ ดึงลูกค้าชาวต่างชาติ เนื่องจาก เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและมีค่ารักษาพยาบาลเฉลี่ยต่อคนสูงกว่าคนไข้ในประเทศอีกด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น