Marketing 3.0

การเปลี่ยนแปลงทางสภาพแวดล้อมธุรกิจ โดยเฉพาะยุคนี้ที่เต็มไปด้วยsocial network ทำให้การตลาดต้องมีการเปลี่ยนแปลงให้ทันกันหรือเรียกว่ามีdynamicอยู่ตลอดเวลา

ยุคของการตลาดนั้น Kotler ปรมาจารย์ด้านการตลาดได้สรุปแนวทางการตลาดไว้เป็น3ยุคด้วยกันตือ
1) Marketing 1.0 หรือเรียกว่ายุคของ Functional Value ที่เน้นด้วย Product Oriented ว่าด้วยยุทธวิธีและแนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ คือหาผลิตภัณฑ์มาตอบสนองตลาด และใช้กลยุทธ์ 4Ps คือ Product Price Place Promotion เป็นพื้นฐานในการที่จะทำให้ผู้บริโภคซื้อ หรือกระตุ้นตลาด ยุคนี้ถือว่าเป็นยุคทองของผู้ผลิต ผู้ขาย  

2) Marketing 2.0 เป็นยุคที่เน้นคุณค่าในเชิงอารมณ์ Emotional value แบบ Customer oriented หรือเปลี่ยนเป็นการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง โดยเริ่มมาสนใจลูกค้า ดูว่าต้องการอะไรแล้วค่อยไปปรับข้อเสนอให้ตรงใจลูกค้า เน้นให้ลูกค้ามีส่วนร่วม การตลาดจะใช้ยุทธการคือ STP

Segmentation คือการแบ่งตลาดออกเป็นส่วนๆ Targeting แล้วเลือกเป้าหมายตลาดที่ความสามารถขององค์กรจะทำกำไรได้ดีที่สุด จากนั้นก็วางตำแหน่งครองใจลูกค้าหรือ Positioning ด้วยการหาจุดเด่นมาเป็นจุดจูงใจลูกค้า และอยู่ใน mind ของลูกค้าแบบยั่งยืน
ตอนปลายยุคนี้ได้มีการครอบครองหัวใจลูกค้าด้วยกลยุทธ์ CRM - Customer Relationship Management แล้วพัฒนาเป็น CEM-Customer Experience Management นอกจากนั้นก็ได้เกิดสื่อเครือข่ายทางสังคม Social Network ทำให้เกิดเครือข่ายของลูกค้าที่เชื่อใจกันเองมากกว่าเชื่อใจแบรนด์หรือบริษัท ทำให้เริ่มเกิด CSR Corporate Social Responsibility ดูคล้ายกับการทำ PR สำหรับแก้ต่างของบริษัทมากกว่า เพื่อทำให้ดูเป็นคนดีของสังคม

          3) Marketing 3.0 เป็นยุคที่บริษัทเปลี่ยนจากการยึดถือผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง(consumer-centricity)   มาสู่การให้ความสำคัญต่อมนุษย์ (human-centricity) เป็นการตลาดที่เน้นยุทธศาสตร์ ที่ไม่ใช่แค่บริษัทรับผิดชอบต่อสังคม แต่ต้องฝังหยั่งลึกในรากเหง้าของบริษัทหรือ DNA ผ่าน Corporate Mission Vision Value ที่บริษัทต้องจริงใจจริงจังทำให้ยั่งยืน บริษัทจะไม่แค่มุ่งเน้นการวางตำแหน่งใน mind ผู้บริโภค แต่ต้องเข้าถึงจิตวิญญาน Spirit จนเกิดเป็นลัทธิ ตั้งแต่ผู้ป้อนวัตถุดิบ ลูกจ้างพนักงาน คู่ค้า พันธมิตรช่องทางจัดจำหน่าย จนถึงผู้ถือหุ้น คุณค่าที่เน้นในยุคนี้คือ Spiritual Value & Creative Value ให้กับลูกค้านอกเหนือจาก Emotional&Functional Value

มีคนกล่าวไว้ว่า ในโลกธุรกิจ มีบริษัทอยู่สามประเภท คือ หนึ่ง บริษัทที่ทำให้สิ่งต่างๆเกิดขึ้น สอง บริษัทที่เฝ้าดูการสร้างเหล่านั้น และสามบริษัทที่มัวแต่กังขาว่าเกิดอะไรขึ้น....แล้วบริษัทที่ท่านบริหารอยู่ล่ะ อยากให้เป็นแบบไหน